เส้นผมของสาวๆ นั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นจะต้องมีการดูแลเป็นพิเศษ อย่างพิถีพิถัน อย่างไรก็ตามสาวๆ ไม่จำเป็นต้องเข้าร้านทำผม หรือใช้ผลิต???ัณฑ
บำรุงผมแพงๆ ก็สามารถ
ดูแลผมให้สวยได้ เพียงแค่ใช้สูตรจากสมุนไพรในครัว ดังต่อไปนี้ค่ะ
1. บำรุงผม ให้นุ่มเหมือนแพรไหม ด้วยข้าวโอ๊ต และน้ำมันเมล้ดอัลมอนต์ โดยสาวๆ เพียงแค่นำเอาข้าวโอ้ต มาผสมกับน้ำมันเมล็ดอัลมอนต์ (หรือน้ำมันมะกอก) 2 ช้อนโต๊ะ เติมนมรสจืดแบบไม่พร่องมันเนยลงไปอีก ? ถ้วยตวง ผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว แล้นำมาชโลมให้ทั่วเส้นผมและหนังศีรษะ หมักทิ้งเอาไว้ 20 นาทีจึงล้างออก สระผมตามปกติ ทำเป็นประจำ ผมจะนุ่มลื่น เพราะข้าวโอ๊ต น้ำมันเมล็ดอัลมอนต์ นม ล้วนแล้วแต่มีสารอาหาร ที่ช่วยบำรุงเส้นผมให้นุ่มลื่นได้ดีนั่นเอง
2. บำรุงผม ให้มีความนุ่มนวล เงางามเป็นประกาย ด้วยน้ำผึ้ง น้ำมันมะกอก และ Apple Vinegar โดยผสมน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ ตามด้วยน้ำมันมะกอก และน้ำส้มสายชูที่ทำจาก Apple อย่างละ 1 ช้อนโต๊ะลงไป ผสมให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว นำมาชโลมให้ทั่วเส้นผม (ระหว่างที่เส้นผมแห้ง) หมักทิ้งเอาไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด สระผมตามปกติ ทำเป็นประจำ ผมจะมีความนุ่มนวล น่าสัมผัส เพราะสรรพคุณจากส่วนผสมทั้งหมดจะช่วยกระตุ้นให้เส้นผมนั้นไม่หยาบกระด้าง มีวอลลุ่มน่ามองนั่นเอง
3. บำรุงผม ให้มีวอลลุ่ม มีน้ำนักจัดทรงได้ง่าย เพียงแค่นำเอากล้วยหอมบด 2 ลูก และไข่ขาว 1 ฟอง มาใส่ในเครื่องปั่น เติมโยเกิร์ต น้ำมันมะกอก และน้ำผึ้ง อย่าละ 2 ช้อนโต๊ะลงไป ปั่นให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้นั้น มาชโลมให้ทั่วเส้นผม คลุมทับด้วยหมวกอาบน้ำ ทิ้งเอาไว้ประมาณ 30 นาที จึงล้างออก และสรผมตามปกติ ทำเป็นประจำ ผมจะมีความชุ่มชื้น และมีน้ำหนักจัดทรงได้ง่าย เนื่องจากกล้วยหอม และไข่นั้นมีสารอาหารมากมาย ที่ทำให้เส้นผมมีความชุ่มชื้นนั่นเอง
4. บำรุงผมที่แห้งเสีย เปราะ ขาดง่าย ให้มีน้ำหนัก และสุข???าพดีอย่างลึกล้ำ โดยนำเอาผลอะโวกาโด้ หรือว่านหางจระเข้ปอกเอาแต่วุ้นด้านใน มาบดผสมกับน้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ จากนั้นบดผสมให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันเป็นเนื้อเดียว นำมาหมักชโลมให้ทั่วเส้นผม และหนังศีรษะหมักทิ้งเอาไว้ประมาณ 20 นาที จึงล้างออกด้เวยน้ำธรรมดา หลังจากนั้นสระผมด้วยแชมพูสูตรธรรมชาติ ทำเป็นประจำ จะช่วยฟื้นฟูส???าพของเส้นผมทีแห้งเสีย เปราะง่ายนั้นหายไป เพราะอะโวกาโด้ หรือว่านหางจระเข้นั้นมีคุณสมบัติในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมได้อย่างมีประสิทธิ???าพนั่นเอง
อ้างอิง :
http://www.xn--12ct2ati9ansu2bzd9eyduf.com/2016/09/blog-post_9.html