หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เกียร์ออโต้ (เกี่ยวกับการขับ)  (อ่าน 3289 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ChaSha
นักแข่งมือสมัครเล่น
***

จิตพิสัย 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 204



อีเมล์
« เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2014, 04:53:33 am »

ตามความเข้าใจของผม มุมส้ม97ออโต้3สปีด
 เกียร์D คือ ให้รถใช้เกียร์1หรือ2หรือ3 ขึ้นกับความเร็ว
 เกียร์2 คือ ให้รถใช้เกียร์1หรือ2 ขึ้นกับความเร็ว
 เกียร์L คือ ให้รถใช่แค่เกียร์1
 ในขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูงๆ เมื่อเราต้องการลดความเร็วรถ โดยปกติผมจะใช้แค่เบรค ซึ่งทำให้ล้อคู่หน้าของผมร้อนมาก เพราะผมจะเบรครถบ่อยมาก และส่งผลให้ผ้าเบรของผมหมดเร็วมาก
 ผมจึงลองใช้วิธีใหม่ที่จะได้ขับรถเร็วได้โดยไม่เปลืองผ้าเบรค ด้วยวิธีการเลื่อนคันเกียร์จากDไป2ทำให้ความเร็วรถตกลงมา(คล้ายการเทิร์เกียร์)
 อีกทั้งตอนเร่งแซง ปกติผมจะเหยียบคันเร่งจนมิด รถก็จะพุ่งไปข้างหน้า แต่เท่าที่สังเกตุดู หากความเร็วรถในขณะนั้นเกิน80 รถจะไม่คิ๊กดาวน์ให้ ตอนหลังเลยใช้วิธิตบเกียร์ลงมาที่เกียร์2 รถก็พุุ่งปรี๊ดไปข้างหน้าทันที ดุเด็ดเผ็ดมันมาก เลื่อนไปเลื่อนมา
ผมจะรบกวนถามพี่่ๆว่า เล่นแบบนี้บ่อยๆเกียร์พังไหมครับ
บันทึกการเข้า

solu
นักแข่งมือสมัครเล่น
***

จิตพิสัย 2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 199



อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2014, 08:18:44 am »

ตามความเข้าใจของผม มุมส้ม97ออโต้3สปีด
 เกียร์D คือ ให้รถใช้เกียร์1หรือ2หรือ3 ขึ้นกับความเร็ว
 เกียร์2 คือ ให้รถใช้เกียร์1หรือ2 ขึ้นกับความเร็ว
 เกียร์L คือ ให้รถใช่แค่เกียร์1
 ในขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูงๆ เมื่อเราต้องการลดความเร็วรถ โดยปกติผมจะใช้แค่เบรค ซึ่งทำให้ล้อคู่หน้าของผมร้อนมาก เพราะผมจะเบรครถบ่อยมาก และส่งผลให้ผ้าเบรของผมหมดเร็วมาก
 ผมจึงลองใช้วิธีใหม่ที่จะได้ขับรถเร็วได้โดยไม่เปลืองผ้าเบรค ด้วยวิธีการเลื่อนคันเกียร์จากDไป2ทำให้ความเร็วรถตกลงมา(คล้ายการเทิร์เกียร์)
 อีกทั้งตอนเร่งแซง ปกติผมจะเหยียบคันเร่งจนมิด รถก็จะพุ่งไปข้างหน้า แต่เท่าที่สังเกตุดู หากความเร็วรถในขณะนั้นเกิน80 รถจะไม่คิ๊กดาวน์ให้ ตอนหลังเลยใช้วิธิตบเกียร์ลงมาที่เกียร์2 รถก็พุุ่งปรี๊ดไปข้างหน้าทันที ดุเด็ดเผ็ดมันมาก เลื่อนไปเลื่อนมา
ผมจะรบกวนถามพี่่ๆว่า เล่นแบบนี้บ่อยๆเกียร์พังไหมครับ
เบรครถยนต์ มี 3 อย่างคือ เบรคเท้า เบรคมือ และเบรคเครื่อง ถ้าเราถอนคันเร่ง จะเป็นการใช้เบรคเครื่องโดยอัตโนมัติ กรณีที่จำเป็น เช่น ลงเขาหรือลงทางชันมากๆ เขาถึงจะใช้วิธีเปลี่ยนเกียร์ให้ต่ำลง เพื่อให้เครื่องช่วยเบรคได้ดีขึ้น แต่กรณีใช้งานปกติไม่แนะให้เลื่อนคันเกียร์เพื่อเบรครถ เพราะเกียร์จะพังเร็ว ควรใช้ในยามจำเป็นเท่านั้น เปลี่ยนผ้าเบรค คุ้มกว่าเปลี่ยนเกียร์ ครับ
บันทึกการเข้า

พ่อน้องนาย
นักแข่งมืออาชีพ
****

จิตพิสัย 12
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 392



อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2014, 09:50:37 am »

ตามความเข้าใจของผม มุมส้ม97ออโต้3สปีด
 เกียร์D คือ ให้รถใช้เกียร์1หรือ2หรือ3 ขึ้นกับความเร็ว
 เกียร์2 คือ ให้รถใช้เกียร์1หรือ2 ขึ้นกับความเร็ว
 เกียร์L คือ ให้รถใช่แค่เกียร์1
 ในขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูงๆ เมื่อเราต้องการลดความเร็วรถ โดยปกติผมจะใช้แค่เบรค ซึ่งทำให้ล้อคู่หน้าของผมร้อนมาก เพราะผมจะเบรครถบ่อยมาก และส่งผลให้ผ้าเบรของผมหมดเร็วมาก
 ผมจึงลองใช้วิธีใหม่ที่จะได้ขับรถเร็วได้โดยไม่เปลืองผ้าเบรค ด้วยวิธีการเลื่อนคันเกียร์จากDไป2ทำให้ความเร็วรถตกลงมา(คล้ายการเทิร์เกียร์)
 อีกทั้งตอนเร่งแซง ปกติผมจะเหยียบคันเร่งจนมิด รถก็จะพุ่งไปข้างหน้า แต่เท่าที่สังเกตุดู หากความเร็วรถในขณะนั้นเกิน80 รถจะไม่คิ๊กดาวน์ให้ ตอนหลังเลยใช้วิธิตบเกียร์ลงมาที่เกียร์2 รถก็พุุ่งปรี๊ดไปข้างหน้าทันที ดุเด็ดเผ็ดมันมาก เลื่อนไปเลื่อนมา
ผมจะรบกวนถามพี่่ๆว่า เล่นแบบนี้บ่อยๆเกียร์พังไหมครับ
เบรครถยนต์ มี 3 อย่างคือ เบรคเท้า เบรคมือ และเบรคเครื่อง ถ้าเราถอนคันเร่ง จะเป็นการใช้เบรคเครื่องโดยอัตโนมัติ กรณีที่จำเป็น เช่น ลงเขาหรือลงทางชันมากๆ เขาถึงจะใช้วิธีเปลี่ยนเกียร์ให้ต่ำลง เพื่อให้เครื่องช่วยเบรคได้ดีขึ้น แต่กรณีใช้งานปกติไม่แนะให้เลื่อนคันเกียร์เพื่อเบรครถ เพราะเกียร์จะพังเร็ว ควรใช้ในยามจำเป็นเท่านั้น เปลี่ยนผ้าเบรค คุ้มกว่าเปลี่ยนเกียร์ ครับ
การที่คุณใช้เกียร์ออโต้แบบเกียร์ธรรมดาบ่อยๆ..โอกาสเกียร์ออโต้จะลากลับบ้านเก่าสูงมาก การสึกหรอสูงมาก ขนาดเกียร์ CVT รุ่นใหม่ๆ มี่ให้เปลี่ยน +-ได้เล่นบ่อยๆยังพังเลยครับ
ผมว่าเปลี่ยนจานเบรค+ผ้าเบรกเกรดสูงๆดีกว่า การเปลี่ยนเกียร์ขึ้น-ลงเองใช้เท่าที่จำเป็นครับเช่น ขึ้น-ลงเขา ลากจูง ติดหล่ม เป็นต้น แล้วเกียร์แต่และเกียร์มีขีดจำกัดของมันการที่เราเค้นกำลังมันออกมาใช้ยอมรับว่า..."ขับสนุก แต่จะสุขแค่พักเดียว แล้วจะ...เ-xี่-ย-ว ครับ"
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 24, 2014, 09:53:58 am โดย พ่อน้องนาย » บันทึกการเข้า

ChaSha
นักแข่งมือสมัครเล่น
***

จิตพิสัย 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 204



อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2014, 10:01:39 am »

 
บันทึกการเข้า

ChaSha
นักแข่งมือสมัครเล่น
***

จิตพิสัย 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 204



อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2014, 10:20:41 am »

เกียร์ออโต้ ใช้อย่างไรให้ถูกวิธี
29 พฤษ???าคม 2010 เวลา 9:39 น.

1)การขับรถเกียร์ออโต้โดยทั่วๆไป ที่ไม่จำเป็นจะต้องใช้เทคนิคพิเศษแบบนักแข่งรถ ควรใช้เท้าขวาเพียงเท้าเดียวในการเหยียบคันเร่งเบรค ไม่ควรใช้เท้าซ้ายเหยียบเบรค

2) สำหรับท่านที่เพิ่งจะเริ่มขับรถ พยายามเบรคด้วยเท้าขวาเท่านั้น และเหยียบเบรคทุกครั้งก่อนสตารท์รถ เพื่อป้องกันอันตรายถึงแม้ตำแหน่งเกียร์จะอยู่ที่ตำแหน่ง(P)หรือ(N)ก็ตาม และเหยียบเบรคทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ว่าง( N ) หรือเกียร์จอด (P) ไปเป็นเกียร์เดินหน้า (D) หรือเกียร์ถอยหลัง (R) จำไว้ให้ขึ้นใจครับ รถหยุดนิ่ง เหยียบเบรคก่อนทุกครั้งก่อนขยับเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ครับ

3) ถ้าท่านเลื่อนคันเกียร์ออกจากตำแหน่งเดินหน้า (D) ไปเป็นตำแหน่งถอยหลัง (R) หรือเปลี่ยนจากตำแหน่งถอยหลัง (R) ไปเป็นตำแหน่งเดินหน้า (D) ควรให้รถหยุดสนิทให้เรียบร้อยก่อน หลายท่านขับแบบใจร้อนและผิดวิธี รถยังคงเคลื่อนที่อยู่ก็รีบเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ จะทำให้เกียร์มีอายุการใช้งานสั้น อย่าลืมว่า ค่าซ่อมหรือเปลี่ยนเกียร์ใหม่ในรถยนต์บางรุ่นมีราคาสูงมาก

4) ขณะที่รถวิ่งอยู่ไม่ควรเข้าเกียร์ตำแหน่ง (N) เช่นเห็นไฟแดงข้างหน้าแต่ยังอีกไกล กลัวว่าจะไม่ประหยัดน้ำมัน ท่านจึงเข้าเกียร์ในตำแหน่ง (N) และปล่อยให้รถไหลไปจนถึงไฟแดง รถแทบทุกรุ่นในยุคปัจจุบันใช้ระบบหัวฉีดควบคุด้วยสมองกลที่ทันสมัย การจ่ายเชื้อเพลิงขึ้นตรงกับลิ้นปีกผีเสื้อ ถ้าท่านยกเท้าออกจากคันเร่งลิ้นปีกผีเสื้อก็จะปิดทันที เซนเซอร์ลิ้นปีกผีเสื้อจะรายงานกล่องสมองกลที่ควบคุมระบบการจ่ายเชื้อเพลิง ให้หยุดทำการจ่ายน้ำมันทันที ไม่มีความจำเป็นที่ต้องปลดเกียร์ว่าง (N) แต่อย่างใด และยังเป็นผลเสียอย่างร้ายแรงต่อเกียรืของท่านอีกด้วย เนื่องจากรถยนต์ในขณะเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว เกียร์ที่อยู่ในตำแหน่ง(D) จะมีปั้มแรงดันสูง ส่งน้ำมันเกียร์เข้าไปหล่อลื่นอยู่ตลอดเวลา
แต่ปั้มน้ำมันของเกียร์อัตโนมัติจะทำงานน้อยลงเมื่อเกียร์ อยู่ในตำแหน่ง (N) เมื่อไม่มีแรงดันที่พอเพียงจะดันน้ำมันไปหล่อลื่นเกียร์อย่างเพียงพอ จะทำให้เกียร์ออโต้ของท่านร้อน และเกิดการสึกหรอเสียหายตามมา และด้วยสาเหตุนี้เองเวลารถที่ใช้เกียร์ออโต้เสียและจำเป็นต้องลากไปอู่จึงจำ เป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเติมน้ำมันเกียร์เพิ่มเข้าไปอีก เพื่อช่วยลดความร้อนของเกียร์ขณะที่ทำการลากจูง หรือถ้าหาน้ำมันเกียร์มาเติมไม่ได้ ควรยกให้ล้อที่ใช้ขับเคลื่อนให้ลอยพ้นพื้นถนนเนื่องจากระบบปั้มน้ำมัน เพาว์เวอร์ของระบบเกียร์อัตโนมัติหยุดทำงาน ไม่แนะนำให้ถอดเพลาสำหรับรถขับเคลื่อนล้อหลังเพระยุ่งยากและเสียเวลามากครับ ปัจจุบันนี้มีรถยก 6 ล้อ แบบสไลด์ออนสามารถนำรถทั้งคันขึ้นไปไว้บนกระบะหลัง สะดวกสบายและปลอด???ัยต่อเกียร์อัตโนมัติและรถยนต์ราคาแพงของท่านครับ

5) การเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ 2 ต้องระมัดระวังเนื่องจากตำแหน่ง 2 จะมีอัตตราทดเฉพาะเกียร์ 1 และ 2 ซึ่งบริษัทผู้ผลิตต้องการทำให้ท่านเจ้าของรถใช้งานในกรณีที่ต้องการแรงบิด มากๆเช่นทางขึ้นเนินที่ค่อนข้างชัน หรือต้องการการหน่วงความเร็วของรถเอาไว้เช่นในขณะที่ขับรถลงเนินเขา(ENGINE BRAKE) หรือวิ่งบนเส้นทางที่คดเคี้ยว ลาดชันมากๆ ห้ามใช้ตำแหน่งเกียร์ 2 ในขณะที่ท่านขับรถด้วยความเร็วสูง เพราะจะทำให้เครื่องยนต์ใช้รอบเครื่องสูงตามไปด้วย จนเกินขีดจำกัดและก่อให้เกิดความเสียหาย และอาจลื่นไถลเนื่องจากเกิดแรงบิดมหาศาลมากระทำที่ล้อ ทำให้รถเสียการทรงตัวได้ครับ
6) ไม่ควรขับลากเกียร์ โดยทั่วไปการขับรถยนต์เกียร์อัตโนมัติ ตำแหน่งเกียร์จะอยู่ที่ (D) ระบบสมองกลที่ควบคุมเกียร์จะทำการสั่งงานให้ปรับเปลี่ยนเกียรให้ขึ้นลงตาม ความเหมาะสมและความเร็วของรถอยู่ตลอดเวลา บางท่านรู้มากใช้วิธีเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์โดยการเลื่อนคันเกียร์ขึ้นลงเองใน ขณะที่รอบเครื่องทำงานสูงสุดเพียงเพื่อหวังผลทางด้านอัตราเร่งแต่จะมีผลทำ ให้ผ้าคลัทช์ และระบบทอกค์คอนเวอร์เตอร์เกิดการสึกหรอเสียหาย และทำให้มีอายุการใช้งานของเกียร์อัตโนมัติสั้นลง

7) ไม่ขับแบบเปลี่ยนเกียร์ลงต่ำเอง(คิกดาวน์)บ่อยๆ การขับในตำแหน่ง (D)ระบบสมองกลควบคุมเกียร์จะทำการคำนวนค่าของแรงต่างๆและปรับเปลี่ยนตำแหน่ง เกียร์ตามความเร็วของรถในขณะนั้นตลอดเวลาอยู่แล้ว การกดคันเร่งเพื่อเปลี่ยนเกียร์ลงต่ำหรือที่เรียกว่าคิกดาวน์ ไม่ควรทำบ่อยครั้ง หรือทำเท่าที่จำเป็นในการเร่งแซงให้พ้นเท่านั้น ถ้าท่านทำบ่อยๆ ผ้าคลัทช์ของเกียร์จะทำงานหนักและสึกหรอเร็วมากขึ้นครับ

8) ควรมีสายพ่วงแบตตารี่ติดท้ายรถไว้ตลอดเวลา เนื่องจากรถยนต์เกียร์อัตโนมัติไม่สามารถเข็นด้วยความเร็วต่ำแล้วกระตุ กสตารท์ให้ติดเครื่องยนต์ได้เหมือนรถยนต์เกียร์ธรรมดา การเข็นรถเกียร์อัตโนมัติแล้วใช้วิธีกระตุกสตารท์ ต้องใช้ความเร็วอย่างน้อย 20กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเข็นด้วยแรงคนเป็นไปได้ยาก และยังเสี่ยงกับความเสียหายต่อเกียร์ในขณะที่ทำการเข็นหรือลากอีกด้วย ควรตรวจสอบแบตตารี่ให้มีไฟพอเพียงต่อการสตารท์ทุกครั้งครับ

9) น้ำมันเกียร์อัตโนมัติหัวใจของการหล่อลื่นและยืดอายุการใช้งานของเกียร์รถ ท่านให้ยาวนาน จึงควรเอาใจใส่ตรวจสอบบ่อยๆ การตรวจเช็คระดับน้ำมันเกียร์ให้อยู่ในระดับที่ไม่ต่ำกว่าขีดที่ก้านวัด กำหนดหมั่นเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามระยะทางทีแนะนำ ไม่มีเกียร์อัตโนมัติใดไม่ต้องการการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ตลอดอายุการใช้ งานของรถตามที่มีหลายๆบริษัทผู้ผลิตรถยนต์โฆษณาชวนเชื่อให้รถยนต์ของตนดูทน ทานและแข็งแรงตามความเป็นจริงจากส???าพการจราจร อุณ???ูมิ และส???าพการขับขี่ เกียร์อัตโนมัติทุกยี่ห้อยังต้องการการดูแลแปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ตามระยะ ทางที่ใช้ครับ

10) ตำแหน่งในเกียร์อัตโมติ
P)PARKING-เป็นตำแหน่งเกียร์ที่ใช้จอดในลักษณะเป็นที่เป็นทางไม่จอดขวางทางรถคันอื่นแล้วใส่ตำแหน่งเกียร์นี้ไว้ หรือจอดในทางที่มีลักษณะลาดชัน และใช้ในตำแหน่งสตารท์เครื่องยนต์

R) REVERSE-เป็นตำแหน่งเกียร์ถอยหลัง เหยียบเบรคทุกครั้งที่จะเข้าเกียร์ในตำแหน่งนี้

N) NEUTRAL-เป็นตำแหน่งเกียร์ว่าง ใช้ในการตัดกำลังของเครื่องยนต์ที่ส่งลงมาสู่เกียร์ และใช้เป็นตำแหน่งสตารท์เครื่องยนต์

D) DRIVE-เป็นตำแหน่งเกียร์เดินหน้าและใช้ในการขับขี่ตามปกติ
โดยตำแหน่งเกียร์จะปรับเปลี่ยนเองตามคำสั่งของสมองกลที่ควบคุม
ยกเว้นรถยนต์บางรุ่นที่มีสวิทช์ปรับเปลี่ยนระบบเกียร์และผู้ใช้เปิดสวิทช์เพื่อใช้งานในการปรับตำแหน่งเกียร์ด้วยตัวเอง

2) เป็นตำแหน่งเกียร์เดินหน้า แต่จะมีอยู่แค่ 1 และเกียร์ 2 อยู่ในตำแหน่งนี้
ใช้เพื่อขับขึ้นลงทางที่มีเนินสูงชัน ทางที่คดเคี้ยวไปมา ที่ไม่สามารถใช้ความเร็วสูงได้

1) LOW-เกียร์ในตำแหน่งนี้ มีเพียงเกียร์ 1 เท่านั้น ใช้สำหรับงานหนักที่ต้องการกำลัง หรือรถติดหล่ม หรือทางขึ้น ลงเขาที่ชันมาก


ที่มา : MThai
บันทึกการเข้า

oh! AL50
นักแข่งแชมป์ประเทศไทย
*****

จิตพิสัย 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 535



อีเมล์
« ตอบ #5 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2014, 12:08:20 pm »

แล้วถ้าเปลี่ยนเกียร์ธรรมา ใช้เกียร์ช่วยเบรกบ่อยๆมันจะพังไหม ครับ 
บันทึกการเข้า

pop_dgi
นักแข่งแชมป์โลก
******

จิตพิสัย 27
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1455


น้ำหยดติ๋งๆ ก็เต็มตุ่ม


อีเมล์
« ตอบ #6 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2014, 01:20:29 pm »

ได้สาระ ความรู้กันถ้วนหน้า เยี่ยมครับ
บันทึกการเข้า
พ่อน้องนาย
นักแข่งมืออาชีพ
****

จิตพิสัย 12
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 392



อีเมล์
« ตอบ #7 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2014, 05:01:37 pm »

แล้วถ้าเปลี่ยนเกียร์ธรรมา ใช้เกียร์ช่วยเบรกบ่อยๆมันจะพังไหม ครับ  
เกียร์ธรรมดาใช้เกียร์ช่วยเบรกได้แต่ต้องให้เหมาะสมกับรอบเครื่องยนต์และความเร็วครับ เช่นคุณวิ่งเกียร์ 5 ความเร็วร้อย 150 เมื่อเบรกควรเหยียบเบรกให้ความเร้วลดลงพร้อมเปลี่ยนเกียร์ 4 และเหยียบเบรกพร้อมกับเปลี่ยนเป็นเกียร์ 3 เป็นต้น ถ้าอยู่ๆเปลี่ยนเกียร์ลงมาแล้วมีอาการกระตุกกระชากอย่างแรง ไม่เพียงแค่เฟืองเกียร์เท่านั้นที่รับ???าระ ช่วงล่างทั้งหมด บูช ลูกหมาก โช้คอัพ ยางแท่นเครื่อง ฯลฯ
ก็จะรับ???าระอย่างรุนแรงตามไปด้วย อายุการใช้งานก็จะสั้นลงอย่างเร็ว
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: