รบกวนท่านผู้รู้ช่วยตอบทีนะคะ

[soluna-chom]

คือตอนนี้รถเสียคะ สตาร์ทไม่ติด
1. อาการครั้งแรก ตอนเช้าใช้รถได้ตามปรกติ พอตอนเย็นจะกลับบ้านรถสตาร์ทไม่ติดแล้ว ช่างเปลี่ยนตัวดีเลย์ให้ เสียไป 200 บาท รถใช้ได้ปรกติ
2.พอวันรุ่งขึ้นรถสตาร์ทไม่ติดอีก ช่างคนเดิมบอกว่าเป็นที่แบตให้เปลี่ยนแบตเราก็เปลี่ยน เสียไป 2000 บาทรถใช้ได้ตามปรกติ
3.พอวันรุ่งขึ้น อาการเดิมสตาร์ทไม่ติดอีกแล้วค่ะ เรียกช่างคนเดิมมาดู เค้าบอกว่าเป็นที่จานจ่าย ให้่เปลี่ยนจานจ่าย ราคาประมาณ 2000 บาท
เราก็เลยบอกว่ายังไม่มีตังค์ คะ รอก่อน ยังไม่เปลี่ยน บอกตรงๆกลัวโดนหลอกอะ เราเริ่มไม่แน่จัย แบบนี้มันจะยาวไหมคะ ช่างเค้าดูตรงจุดไหม เพราะเราไม่รู้เรื่องรถเลยคะ บ้านอยู่แถวนวลจันทร์ สุขา???ิบาล 1 ค่ะ แนะนำอู่ดีๆสักอู่ ได้ไหมคะ
ขอบคุณล่วงหน้านะคะ :)
ปล. น้องโซรุ่นหยุดน้ำปี 2000 เกียร์ออโต้

[Yoo rama5]

เท่าที่ผมเคยเป็นนะครับ รถสตาร์ทไม่ติดเหมือนกัน แต่เป็น jazz vtec 2006

1. เริ่มจากเปลี่ยนแบต 2000กว่า ใช้ได้ 2-3 วันก็สตาร์ทไม่ติดอีก
2. ซ่อมไดชาร์จ เปลี่ยนลูกปืนไดชาร์ท พร้อมแปรงถ่านอีก 1200 (แต่ก่อนซ่อมเค้าก็วัดแล้วนะ เพราะสตาร์ทรถแล้วไดชาร์ทก็ยังชาร์ทอยู่ แต่จะซ่อมของตูเอาตังทำไมฟระ)
3. ช่างคนเดิมก็เลยยอมเช็คไฟรั่ว ปรากฎว่าไม่รั่วเลยต้องช่วยตัวเอง

หาในอากู๋ เจออาการเดียวกันใน civic เป็นที่ relay แอร์เสียครับ ปกติผมจะปิดแต่พัดลม ไม่ได้ปิดตัวน้ำยาแอร์ ทำให้รถยังมีการใช้ไฟอยู่ แบตเลยหมด แค่เปลี่ยน relay ไม่เกิน 200 เสร็จ แต่จ่ายไป 3500+

ผมว่า
1. ลองเอาแบตไปชาร์ตดูก่อนครับ ไม่กี่บาท 20-30 บาท ไม่น่าเกินนี้จะได้รู้ว่าแบตเสื่อมมั๊ย แต่ถ้าเปลี่ยนแบตแล้วก็ซื้อความสบายใจ คิดซะว่า ยังไงก็ต้องเปลี่ยน แค่เปลี่ยนเร็วหน่อย
2. ให้เค้าวัดไฟ เช็คดูว่าเป็นที่อะไรกันแน่ อย่าเพิ่งซ่อมมั่วๆอย่างผม มันเปลือง เพราะพวกนี้จะมีวิธีการเช็คครับ ว่าเป็นที่อะไรกันแน่ ไดชาร์ท ไดสตาร์ท แบต หรือไฟรั่ว ไม่น่าจะพ้นจากพวกนี้ หาให้เจอก่อนค่อยซ่อมดีกว่าครับ

ลองหาข้อมูลในอากู๋ก็ได้ครับ จะบอกวิธีเช็คอยู่ว่าเสียที่ไหนกันแน่

[seasanak]

ที่ผมเคยเป็นและแก้ไขมาแล้วนะครับ เป็นที่ ไดนาโมชาร์จ มีไฟรั่ว ที่ชุด เร็กกุเรเตอร์ ที่อยู่ตรงด้านท้ายของไดฯ ครับ
การสังเกตุ และ หาสาเหตุว่าใช่จุดนี้หรือไม่ - เริ่มจาก เมื่อกลับมาถึงบ้านแล้วและ ไม่ได้ออกไปไหนอีก พอจอดรถแล้วให้ดึงปลั๊กที่อยู่ด้านหลังของไดฯ ออกเลย  พอตอนเช้าลองสต๊าร์ทรถดูว่าทำงานปกติไหม ถ้าสต๊าร์ทได้ปกติก็ดับเครื่องแล้วเสียบสายไฟที่ถอดออกเมื่อวานเข้าที่ ใช้รถตามปกติเมื่อกลับมาถึงบ้านก็ถอดออกอีกทำแบบนี้สักวันหรือสองวันถ้ายังปกติอยู่ก็ชี้ชัดได้ว่าเป็นที่ตัวนี้แน่นอน ครับ ทุกวันนี้เวลาผมไปต่างจังหวัดต้องจอดรถไว้หลายๆวันก็จะดึงปลั๊กตัวนี้ออกทุกครั้งครับ กลัวไฟรั่วตอนเราไม่อยู่น่ะครับ . ลองดูครับ

[poonsup]

เคยเป็นเหมือนกันนะอาการอย่างนี้ เพราะแต่ก่อนขับอย่างเดียว แบตเอย น้ำเอย ไม่เคยเช็คค่ะ
คราวแรกแบตเตือนว่าต้องชาร์ตไฟ ก็เลยเติมน้ำกลั่นแล้วเอารถไปวิ่งให้มันชาร์ตไฟตัวเอง อาการสตาร์ทติดยากก็ยังเป็นอยู่บ้างแต่จะน้อยลง
ผ่านไปเกือบสองอาทิตย์ คราวนี้เช้าตื่นมา เงียบจ้อยร่อยไปเลย บิดกุญแจยังไงก็ไม่ติด
เรียกช่างจากอู่คนรู้จักกันมาลากไป เปลี่ยนไดชาร์ท อย่างเดียว ก็หายสนิทดีจนทุกวันนี้

[BANK_TEIN]

ถ้าแบตไม่เสื่อม  ดูที่ไดร์สตาร์ทครับ  ถ่านด้านในอาจจะหมด เปลี่ยนถ่านด้านในได้    อาการของไดร์เสื่อมคือ บิดกุญแจแล้วเงียบ ไม่มีเสียงอะไรเลย  ไม่มีเสียงแต๊กๆๆๆๆ  ด้วย

[Pa-Prae]

ร้านประจำผมอยู่ตรงลาดปลาเค้าครับ ในตลาด กม 2 อ่ะครับ อู่ช่างแดงครับ ราคาไม่แพงครับ งานดีครับ โทปรึกษาได้ครับ บัส ครับ

[Mr.chatree]

ถ้าบิดกุญแจแล้วมีเสียงแต๊ก ๆ  แต่เครื่องยนต์เงียบฉี่ล่ะ อะไรเสียครับ

[Yoo rama5]

ถ้าบิดกุญแจแล้วมีเสียงแต๊ก ๆ  แต่เครื่องยนต์เงียบฉี่ล่ะ อะไรเสียครับ

ผมว่าแบตครับ

[Mr.chatree]

ถูกต้องแล้วครับคุณโย แบตฯเสีย ได้ลงแบตฯ ลูกใหม่ไปเรียบร้อยแล้ว ได้เปลี่ยนเพิ่มแอมป์จากแบตลูกเดิม 35 Amp เป็น 45 Amp ปรากฏว่า สตาร์ทติดง่ายขึ้น ไฟหน้าสว่างขึ้น และพัดลมแอร์แรงและเย็นขึ้นมากกว่าเดิมอีกครับ แสดงว่าแบตลูกเก่าอาจจะแอมป์น้อยไปหน่อยทำให้ไฟไม่เพียงพอใช้งาน ประกอบกับน่าจะใช้แบตฯ มานานพอสมควรแล้วก็ได้ครับ