หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ต้นกำเนิดเทคโนโลยี ถุงลมนิร???ัย  (อ่าน 1097 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
toyotanon
น้องใหม่
*

จิตพิสัย 4
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 49



เว็บไซต์ อีเมล์
« เมื่อ: พฤศจิกายน 08, 2013, 02:50:02 pm »



คงต้องย้อนไปเมื่อ 30 กว่าปีก่อน  รถยนต์ของเมอร์เซเดสเบนซ์ รุ่น S Class เป็นรุ่นแรก ที่ได้รับการติดตั้งระบบถุงลมนิร???ัย จากโรงงาน ที่  Sindelfingen ประเทศเยอรมนี โดย บริษัท เมอร์เซเดสเบนซ์  ได้ใช้เวลาพัฒนาค้นคว้าทดลองอยู่ถึง 13 ปี ด้วยกัน และถือเป็นก้าวใหม่ของความปลอด???ัยในรถยนต์เลยก็ว่าได้
 
สถิติข้อมูลจากหน่วยงานจราจรเพื่อความปลอด???ัยของสหรัฐอเมริกา (NHTSA) ได้ระบุไว้ว่า ถุงลมนิร???ัยได้ปกป้องชีวิตของผู้ขับรถยนต์ได้ 28,000 กว่ารายในอเมริกา  และจนเมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 1992  ถุงลมนิร???ัยจึงกลายเป็นอุปกรณ์ความปลอด???ัยมาตรฐานของรถยนต์ นับตั้งแต่นั้นมา
ส่วนในเยอรมัน มีการบันทึกสถิติในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2010 เทียบกับ ครึ่งปีแรกของปี 2009 สามารถลดการเกิดการเกิดอุบัติเหตุที่ร้ายแรงลงได้จาก 1966 เป็น 1675 หรือ 15 % เลยทีเดียว
 
และเมื่อไม่นาน หน่วยงานจราจรเพื่อความปลอด???ัยของสหรัฐอเมริกา ได้ทำการศึกษาวิจัย การทำงานของเข็มขัดนิร???ัยและถุงลมนิร???ัย และได้ข้อสรุปผลว่า คนที่ใช้ถุงลมนิร???ัย+เข็มขัดนิร???ัยเมื่อไปเปรียบเทียบกับคนไม่คาดเข็มขัดนิร???ัย โอกาสที่เมื่อเกิดอุบัติเหตุรุนแรงถึงขั้นเสียชิวิตได้ลดลงถึง 61 เปอร์เซ็นต์
 
นอกจากนี้ เมอร์เซเดสเบนซ์ ก็เป็นเจ้าแรก ที่คิดระบบความปลอด???ัยต้นแบบต่างๆ เช่น
โปรแกรมการควบคุมทรงตัวอัตโนมัติ EPS (Electronic Stability Program)
ระบบ PRE- SAFE หรือเป็น???าษาไทยง่ายๆ ว่า การปกป้องก่อนเกิดอุบัติเหตุ โดยเริ่มติดตั้งครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2002
ระบบถุงลมด้านข้าง  เมอร์เซเดสเบนซ์ได้คิดค้นเติมเข้าไปอีก ระบบถุงลมนิร???ัยป้องกันศีรษะ  ซึ่งผลสำรวจผลออกมาว่าความเสี่ยงต่อชีวิตลดลงกว่าครึ่งเลยทีเดียว 
ในปี1970 ได้เกิดมีคำถามถึงอันตรายที่เกิดขึ้นจากถุงลมนิร???ัยกับผู้ใช้งาน จึงทำให้ค่ายรถหลายค่ายหยุดการพัฒนาถุงลมนิร???ัย แต่ เมอร์เซเดสเบนซ์ ก็ยังคงพัฒนาอุปกรณ์นี้ต่อไป จนเพิ่มประสิทธิ???าพมากขึ้น และในปี 1980 รถยนต์ของค่ายเมอร์เซเดสเบนซ์ได้ประกาศใช้ถุงลมนิร???ัยทุกรุ่นในสายการผลิต
และตั้งแต่นั้นก็มีการค้นคว้าสำรวจการใช้ถุงลมนิร???ัยอยู่ตลอด และในปี 2009 หน่วยงานจราจรเพื่อความปลอด???ัยของสหรัฐอเมริกา ได้พูดถึงการใช้ถุงลมนิร???ัย สามารถช่วยชีวิต
 
คนขับได้ถึง  23,127 คน โดย 13,999 คนไม่ได้คาดเข็มนิร???ัย และผู้โดยสารตอนหน้า 5,115 คน โดยเป็นผู้ไม่ได้คาดเข็มขัดถึง 2,883 คน และจากการสำรวจ ถุงลมนิร???ัยจะทำงานได้มีประสิทธิ???าพที่สุดเมื่อผู้ใช้คาดเข็มขัดนิร???ัยควบคู่ไปด้วย

ข้อมูลจาก
ต้นกำเนิด เทคโนโลยี ถุงลมนิร???ัย (AIR bag)
http://www.toyotanon.com/
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: