หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ไฟหน้าและไฟฉุกเฉินใช้อย่างไรให้ถูกต้อง  (อ่าน 1091 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
toyotanon
น้องใหม่
*

จิตพิสัย 4
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 49



เว็บไซต์ อีเมล์
« เมื่อ: ตุลาคม 10, 2013, 05:12:19 pm »



นับวันจะมีรถรุ่นใหม่ออกมาแล่นอยู่บนถนนอยู่เสมอ และยิ่งเดี๋ยวนี้เอาไปติดไฟแบบประหลาดเพิ่มเติมกันเข้าไปอีก  ซึ่งจากกฎหมายจราจรของเรา ที่ใช้กันมานานก็ไม่กำหนดชัดถึงเรื่องไฟรถนี้ด้วย  ทำให้มีบางคนติดกันตามใจชอบ จนกลายเป็นกระแสแฟชั่นตามๆกันไปอีก
 
ซึ่งความจริงแล้วหน้าที่ของไฟรถ นับว่าเป็นสัญญาณเพื่อบอกตำแหน่งของรถเพื่อบอกให้เตือนบอกให้เห็นเพื่อเพิ่มความปลอด???ัยในการขับขี่บนท้องถนน ซึ่งนับเป็นสากลแล้วก็ใช่กันทั้งทั่วโลกทั่วประเทศ วันนี้เราจะมาพูดของเรื่องไฟหน้าและไฟฉุกเฉินกันครับ
 
ไฟหน้า ใช้กันให้ถูก
ไฟหน้ากระพริบถี่ๆ  ที่ชอบเปิดกันในประเทศไทยแปลกันเองว่า ห้ามมานะขอฉันไปก่อน ซึ่งจะเข้าใจกันดีถ้าท่านขับรถอยู่ในประเทศไทย จนกลายเป็นการใช้ในแพร่หลาย???ายในประเทศและเป็นธรรมเนียมวัฒนธรรมปฏิบัติตามกันไปหมดแล้ว แต่ในความหมายในประเทศตะวันตกฝั่งอังกฤษ ยุโรป คือ การเชิญเรียกให้ไปหรือเข้ามาสิผมให้คุณเข้านะครับ
 
จึงทำให้เห็นบางทีเมื่อฝรั่งมาขับรถในประเทศไทยแล้วเกิดเหตุกันขึ้นมาเพราะความใจผิดของสัญญาณสื่อสาร แต่ก็รู้ไว้ไม่เสียหาย เผื่อท่านมีโอกาสขับในต่างประเทศ เพื่อให้เข้าใจหลักสากลบ้าง ในความหมายของประเทศไทยคงจะไปเปลี่ยนแปลงได้ยากแล้วอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุเพิ่มไปอีก หรือถ้ามีโอกาสในการไปขับรถประเทศอื่นว่าเช้ามีอะไรทำเนียมอะไรแปลกๆไปหรือเปล่าก็อย่าลืมไปศึกษาให้ดีเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุได้ครับ
 
และจะขอขยายความเพิ่มอีกหน่อยครับ ในส่วนของหลักสากล คือการเตือนให้รู้ว่ามีรถอยู่ตรงนี้นะ โปรดระวังด้วย หรืออาจเป็นถึงสัญญานบอกเตือนแทนแตร หรือบางเขตบางที่เขาจำกัดการใช้เสียงเช่นโรงพยาบาลเป็นต้น และแสงนั้นเดินทางเร็วกว่าเสียงมากอีกด้วย  ซึ่งได้ผลกว่าในกรณีวิ่งสวนทาง เป็นต้น
 
การใช้ไฟฉุกเฉิน
คงเคยได้ยินกันบ้าง ที่กดใช้ไฟฉุกเฉินแล้วเกิดอุบัติเหตุ ชนกันซ้ำเข้าไปอีก จะยกเหตุการณ์บางกรณีที่ใช้แบบผิดๆ ในบ้านเรา เช่น รถโดนลากจูงแล้วกดไฟฉุกเฉิน   หรือ เมื่อจะผ่าน 4 แยกแล้วกดไฟฉุกเฉิน การกระทำแบบนี้อันตรายมากโดยเฉพาะเวลากลางคืน  รถที่สวนทาง รถตามหลังมาหรือตามมาอาจจะเข้าใจว่าจะตรงไป  อยู่แล้วแต่ในส่วนของรถแยกข้างๆนั้นจะเข้าใจผิดได้ว่าเราจะเลี้ยว เพราะเนื่องจากเขาเห็นสัญญาณไฟของรถเพียงด้านเดียวถึงอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ณ กลาง 4 แยก และยิ่งยิ่งมากันด้วยความเร็วอาจถึงขั้นพิการและเสียชีวิตได้เลย ใครที่ยังทำอยู่ก็อยากให้เลิกทำซะนะครับ และอีกเหตุการณ์หนึ่งก็คือเมื่อฝนตกหนักๆ แล้วมองทางไม่ค่อยเห็นแล้วเปิดไปฉุกเฉิน ขับรถนี้ก็เป็นวิธีการที่ผิด อาจให้คันที่ตามหลังมา เข้าใจผิดนึกว่ารถคุณจอดหรือจอดเสียอยู่  และเมื่อเปลี่ยนจะเลน คันตามมาเขาก็ดูไม่รู้ว่าคุณจะไปเลนไหนอีกด้วย อาจจะทำให้เกิดปัญหาเฉี่ยวชนกันได้  ดังนั้นควรคิดให้ดีก่อนที่จะกดไฟฉุกเฉิน
 
การใช้ไฟฉุกเฉินที่ถูกต้องและถูกหลักมีดังนี้
ไฟฉุกเฉินคือไฟ ที่เราบอกสัญญาณกับรถคันอื่นว่า รถเราเสียหรือมีปัญหาไม่สามารถไปต่อได้หรือต้องการทำการจอดชั่วคราว ฯลฯ  ซึ่งจอดขวางอยู่ในเส้นทางเพื่อบอกให้คันอื่นหลบหรือเลี่ยงออกไป  ซึ่งหลักเป็นสากลใช้กันทั่วโลก
สรุปสั้นๆง่ายๆ คือการบอกให้รถคันอื่นว่ารถเราจอดอยู่นั้นเอง  ไม่ใช้ขับขี่รถอยู่กลางถนนแล้วไปเปิดมั่ว ทำให้เป็นปัญหาอย่างที่กล่าวไว้ด้านบนได้
นอกจากการขับรถแล้วเราก็ควรจะศึกษาเรื่องการใช้ไฟเปิดไฟด้วยเพื่อความปลอดมากขึ้นในการใช้รถใช้ถนนถึงจะเรียกได้ว่าเราขับรถเป็นและดีอย่างแท้จริงครับ

ข้อมูลจาก
ไฟหน้าและไฟฉุกเฉินใช้อย่างไรให้ถูกต้อง
http://www.toyotanon.com/
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: